บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 19 ธ.ค. 2567

เฟดลดดอกปีหน้าแค่2ครั้ง ทองลงสยอง จะผันผวนต่อดูไม่ดี แนะขึ้นขาย 2570-2620

 

วิเคราะห์ราคาทอง 96.5% สมาคมค้าทอง

  • ราคาสมาคมค้าทองคำไทยล่าสุดเมื่อวันที่ 18/12/2567 เวลา 15:55 น. (ครั้งที่ 6) ราคาขายออกอยู่ที่ 42,950 บาท และรับซื้อที่ 42,850 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลง +100 บาท ราคาทองคำไทยวันนี้ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทและการปรับตัวของราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งได้เห็นการเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างกว้าง โดยกราฟทางเทคนิคในภาพแสดงให้เห็นว่าแนวรับหลักอยู่ที่บริเวณ 41,800 บาท และ 41,600 บาท ซึ่งเป็นจุดที่ราคาปรับฐานลงมาทดสอบ และมีการดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อบางส่วนที่เข้ามาพยุงราคาที่บริเวณนี้ ในขณะที่แนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่ระดับ 42,970 บาท และ 43,200 บาท ซึ่งหากราคาสามารถกลับมายืนเหนือระดับนี้ได้ ก็อาจเห็นแรงซื้อเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่องปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำในวันนี้มาจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งแม้จะมีสัญญาณการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำไทยปรับตัวลดลงเร็วและแรงกว่าในตลาดโลก โดยเงินบาทเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 34.50-34.60 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกดดันราคาขายทองคำในประเทศ คาดการณ์ราคาทองสมาคมเปิดตลาดวันนี้ -100

วิเคราะห์ราคาทองจาก SCT Trade Plus

  • ราคาทองคำ Spot ในวันนี้มีการปรับตัวลงแรงอย่างมีนัยสำคัญ การที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญอย่างต่อเนื่องทำให้โอกาสในการฟื้นตัวยังมีจำกัด และแนวโน้มขาลงยังคงเป็นภาพหลักในระยะสั้น หากราคายังไม่สามารถยืนเหนือ 2,650 ดอลลาร์ ได้ การกลับทิศเป็นขาขึ้นจะยังไม่เกิดขึ้น โดยนักลงทุนควรจับตาแนวรับที่ 2,580 ดอลลาร์ และ 2,570 ดอลลาร์ อย่างใกล้ชิด เพราะหากราคาหลุดต่ำกว่านี้ อาจเห็นแรงขายเร่งตัวลงอีกครั้ง ในทางกลับกัน หากราคาสามารถดีดกลับขึ้นเหนือแนวต้าน 2,650 ดอลลาร์ ได้ ก็อาจเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาและราคามีโอกาสฟื้นตัวกลับไปทดสอบระดับ 2,660 ดอลลาร์ อีกครั้ง การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในวันนี้ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการแถลงการณ์เชิง Hawkish (แข็งกร้าว) จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย 2% โดยอาจยังคงต้องใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดไปอีกระยะ ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น และเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินหลัก ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำอย่างชัดเจน

วิเคราะห์เงินบาท (THB)

  • จากกราฟค่าเงินบาท แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเงินบาทอย่างรวดเร็ว โดยราคาทะลุแนวต้านสำคัญที่ 34.250 บาท และ 34.300 บาท ขึ้นมาอย่างชัดเจน และกำลังเข้าใกล้แนวต้านถัดไปที่ 34.600 บาท และ 34.650 บาท ซึ่งเป็นโซนที่เคยเกิดแรงขายในอดีต หากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงไปสู่ระดับสูงขึ้นต่อไปในกรอบถัดไป หลังการประชุม FOMC ล่าสุด เฟดยังคงส่งสัญญาณเชิง Hawkish (แข็งกร้าว) โดยยืนยันถึงความจำเป็นในการตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไป เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และกดดันค่าเงินสกุลอื่นรวมถึงเงินบาทให้ปรับตัวอ่อนค่า

กลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำไทยวันนี้

  • แนะนำกรอบทำกำไร 41,800 / 42,970
  • แนวรับ (จุดซื้อ): 41,800 / 41,600
  • แนวต้าน (จุดขาย): 42,970 / 43,200

บทวิเคราะห์ทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  •  เมื่อคืนนี้เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่จะลดดอกปีหน้าแค่ 2 ครั้งน้อยกว่าปีนี้ ทองลงสยองทันที ภาพรวมทองอ่อนแอเพราะข่าวนี้กระทบแรงและมีโอกาสลงต่อ ประกอบกับเดือนหน้าทรัมป์เข้ามาทำงาน การขึ้นภาษีนำเข้าประเทศคู่แข่ง ตลอดจนการตัดงบการทหารจะช่วยค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่าไปอีก ซึ่งเป็นลบกับทอง นอกจากนี้ข่าวฮามาสจะปล่อยตัวประกันแลกการหยุดยิง ก็ทำให้ทองลงอีกแรง ตัวแปรที่จะทำให้ทองกลับมาขึ้นได้คือตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้พรุ่งนี้ต้องออกมาแย่มาก คืนนี้พรุ่งนี้ต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะคืนพรุ่งนี้ที่มีประกาศเงินเฟ้อส่วนบุคคลของสหรัฐฯ คาดว่าราคาทองจะผันผวนแต่จะเป็นทรงลง

กลยุทธ์ซื้อขายทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  • กลยุทธ์จึงแนะนำขึ้นขายลงซื้อ /คนติดสูงทองยืน 2630 ไม่ได้ต้องปรับพอร์ตขาลง/ คนรอซื้อให้รอต่อหรือซื้อเล่นสั้นเด้งเท่านั้น

ข่าวที่ต้องติดตาม

  • ผลการประชุม FOMC:การปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และทิศทางนโยบายการเงินปี 2568 โดยเฉพาะคำแถลงของประธาน Fed ที่จะชี้ชัดถึงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเงินในระยะยาวwสะท้อนความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในปีหน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อการคาดการณ์ของตลาดต่อทิศทางนโยบายการเงิน
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ: Final GDP และ Unemployment Claims สหรัฐฯ ในวันนี้ ซึ่งอาจมีผลต่อการประเมินแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในอนาคต

GOLD SPOT

  • แนวรับ: $2,570 / $2,550
  • แนวต้าน: $2,615  / $2,625

 

แท๊กของบทความนี้

แป่งปันบทความนี้ :

เรื่องอื่นๆ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ลูกค้า ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วน ตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บุคคลธรรมดาทั่วไป เช่น ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม การให้และ/หรือการรับบริการ การติดต่อ และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น

  1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล ชื่อนามสกุล เพศ วัน-เดือน-ปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LINE ID
  4. ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการหรือกาประกอบอาชีพ  เช่น ประเภทธุรกิจ  ประเภทอาชีพ  ตำแหน่ง อายุงาน เอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจหรือประกอบอาชีพ
  5. ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม   เลขที่บัญชีเงินฝาก รายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก เลขบัตรเครดิต/เดบิต  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย  ข้อมูลสำหรับประเมินความเสี่ยง
  6. ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน  หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ และข้อมูลอื่นๆ              
  7. บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัทที่เกี่ยวข้องการทำธุรกรรมซื้อขาย  รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log/Chat – Bot  ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่านและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ตัวแทนของบริษัท  ผู้รับจ้างช่วงงานต่อหรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนบริษัท  ทางการตลาด ส่งเสริมการขาย  การประชาสัมพันธ์  การเสนอหรือสนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย และจัดส่งสินค้า ผู้จัดการด้านแคมเปญและการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
  2. บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เฉพาะบุคลากร หรือพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลของท่าน เพื่อการให้บริการทางธุรกรรมหรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการดังกล่าว อย่างเหมาะสมและดีที่สุดจากบริษัท
  3. บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้ หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใดๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี จัดเก็บไว้ตามกฎหมาย 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้หรือขอรับสำเนาข้อมูลได้  
  2. สิทธิให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
  3. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

เปิดทำการ จันทร์ – ศุกร์ : เวลา 9.15 – 16.00 น.

Call Center: 02-017-0777

Gold Trading Hotline: 02-017-0770

Fax Center: 02-222-7100

E-Mail: [email protected]

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบาย เวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.methong.co/privacy-policy เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม