บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 21 ม.ค. 2568

ทองปิดบวกเหรือ 2700 มีลุ้นรีบาวด์ แนะย่อซื้อขึ้นขาย SL 2699 ต้าน 2725-30/2750

 

วิเคราะห์ราคาทอง 96.5% สมาคมค้าทอง

  • ราคาสมาคมค้าทองคำไทยล่าสุดเมื่อวันที่ 20/01/2568 เวลา 14:26 น. (ครั้งที่ 6) ราคาขายออกอยู่ที่ 43,950 บาท และรับซื้อที่ 43,850 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลง -100 บาท ราคาทองคำไทยปัจจุบันราคากำลังฟื้นตัวจากระดับแนวรับสำคัญที่ 43,600 บาท ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดหลังจากการปรับฐานในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ 44,100 และ 44,200 บาทได้ จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดอาจกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่บริเวณ 44,500 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ 43,600 และ 43,500 บาท อาจส่งผลให้ราคาลงไปทดสอบบริเวณ 43,200 บาท ซึ่งเป็นจุดแนวรับหลักถัดไป ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยสำคัญในวันนี้คือความไม่แน่นอนในนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หากมีสัญญาณว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจชะลอลง อาจช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจะมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหรือแข็งค่าก็ส่งผลต่อราคาทองคำในประเทศโดยตรง หากเงินบาทยังคงทรงตัวในระดับปัจจุบัน ราคาทองคำในประเทศจะได้รับแรงหนุนจากการเคลื่อนไหวในตลาดโลกโดยตรง คาดการณ์ราคาทองสมาคมเปิดตลาดวันนี้ -100

วิเคราะห์ราคาทองจาก SCT Trade Plus

  • ราคาทองจาก SCT Trade Plus วันนี้ปล่อยออกมาดีกว่าในฝั่งขาย ราคาทองคำ Spot เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่างแนวรับที่ 2,690 และ 2,680 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 2,725 และ 2,720 ดอลลาร์ โดยภาพรวมราคาแสดงถึงความผันผวน ซึ่งบ่งชี้ถึงการรอคอยปัจจัยสำคัญที่จะชี้นำทิศทาง หากราคาทะลุแนวต้าน 2,725 ดอลลาร์ได้ จะเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 2,750 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากราคาหลุดแนวรับที่ 2,680 ดอลลาร์ อาจเห็นแรงขายกดดันเพิ่มเติมและส่งผลให้ราคาลดลงไปยังบริเวณ 2,650 ดอลลาร์ ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยหลักในวันนี้คือการจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่จะส่งสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย หาก FED มีแนวโน้มที่จะหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน อาจเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากทองคำมักถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยลดลง

วิเคราะห์เงินบาท (THB)

  • ราคาค่าเงินบาทกำลังเคลื่อนไหวในช่วงปรับฐานหลังจากที่ร่วงลงแรงในช่วงก่อนหน้า โดยปัจจุบันมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 34.050 และ 34.000 บาท หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจมีการดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 34.300 และ 34.345 บาท ในขณะที่หากราคาหลุดแนวรับ 34.000 บาทลงไป อาจเกิดแรงขายเพิ่มเติมและกดดันให้ราคาลดลงไปยังบริเวณ 33.800 บาท ในด้านปัจจัยพื้นฐาน สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศและปัจจัยภายนอกยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ โดยในช่วงนี้ ตลาดจับตานโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย หาก BOT มีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยหรือปรับลดลงในอนาคต ค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง

กลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำไทยวันนี้

  • แนะนำกรอบทำกำไร : 43,600 / 44,100
  • จุดซื้อ (แนวรับ): 43,600 / 43,500
  • จุดขาย (แนวต้าน): 44,100 / 44,200 บาท

บทวิเคราะห์ทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  • การสาบานตนวันแรกของทรัมป์ทุกคำพูดเป็นไปตามคาด แต่นโยบายภาษี สงครามการค้าเชิงลึกยังไม่เปิดเผยมากเท่าที่ควร ซึ่งตลาดทองก็ยังกังวลจุดนี้ ทั้งนี้เนื่องจากนโยบายภาษีจะมีผลต่อการนำเข้าทองของสหรัฐฯและความเป็นเจ้าตลาดทองของสหรัฐฯ ดังนั้นภาพระยะกลางสำหรับทองยังคลุมเครือต่อไป ภาพระยะสั้นเช้าวันนี้ราคาทองยังเคลื่อนไหวในแดนบวกทำไฮเหนือ 2720 ซึ่งถือว่าดีมาก วันนี้ยังต้องติดตามการตีความนโยบายภาษีการค้า คริบโตและกำแพงภาษีต่างๆ ที่เป็นกติกาโลกใหม่จากนี้ไปอีกสี่ปี

กลยุทธ์ซื้อขายทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  • ทางเทคนิคทองยืน 2700 ได้ถือเป็นภาพบวก ยืน 2725 ได้ถือเป็นภาพการขึ้น แนะย่อซื้อขึ้นขายจนกว่าทองจะปิดต่ำกว่า 2700 หรือ 2690 ซึ่งจะเป้นภาพการพักฐาน คืนนี้ตลาดสหรัฐฯเปิดทำงานหลังเมื่อคืนนี้ปิดวันหยุด คาดทองจะสวิงผันผวนต่อไป แนะปรับพอร์ตให้สมดุล

ข่าวที่ต้องติดตาม

  • วันนี้ไม่มีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม นักลงทุนควรจับตาปัจจัยสงครามระหว่างฮามาสและอิสราเอล
    ที่ได้บรรลุข้อตกลงยุติการหยุดยิง มีการปล่อยตัวประกันจากทางทั้ง 2 ฝ่าย
    ซึ่งปัจจัยนี้อาจมีผลกดดันราคาทองคำระหว่างวันได้

GOLD SPOT

  • แนวรับ: $2,680 / $2,660**
  • แนวต้าน: $2,730 / $2,750

แท๊กของบทความนี้

แป่งปันบทความนี้ :

เรื่องอื่นๆ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ลูกค้า ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วน ตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บุคคลธรรมดาทั่วไป เช่น ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม การให้และ/หรือการรับบริการ การติดต่อ และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น

  1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล ชื่อนามสกุล เพศ วัน-เดือน-ปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LINE ID
  4. ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการหรือกาประกอบอาชีพ  เช่น ประเภทธุรกิจ  ประเภทอาชีพ  ตำแหน่ง อายุงาน เอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจหรือประกอบอาชีพ
  5. ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม   เลขที่บัญชีเงินฝาก รายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก เลขบัตรเครดิต/เดบิต  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย  ข้อมูลสำหรับประเมินความเสี่ยง
  6. ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน  หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ และข้อมูลอื่นๆ              
  7. บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัทที่เกี่ยวข้องการทำธุรกรรมซื้อขาย  รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log/Chat – Bot  ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่านและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ตัวแทนของบริษัท  ผู้รับจ้างช่วงงานต่อหรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนบริษัท  ทางการตลาด ส่งเสริมการขาย  การประชาสัมพันธ์  การเสนอหรือสนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย และจัดส่งสินค้า ผู้จัดการด้านแคมเปญและการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
  2. บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เฉพาะบุคลากร หรือพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลของท่าน เพื่อการให้บริการทางธุรกรรมหรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการดังกล่าว อย่างเหมาะสมและดีที่สุดจากบริษัท
  3. บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้ หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใดๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี จัดเก็บไว้ตามกฎหมาย 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้หรือขอรับสำเนาข้อมูลได้  
  2. สิทธิให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
  3. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

เปิดทำการ จันทร์ – ศุกร์ : เวลา 9.15 – 16.00 น.

Call Center: 02-017-0777

Gold Trading Hotline: 02-017-0770

Fax Center: 02-222-7100

E-Mail: [email protected]

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบาย เวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.methong.co/privacy-policy เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม