ทองแผ่ว จับตา 2655 ยืนได้มีลุ้นต่อ วีคนี้ตัวเลขเยอะจะแกว่งแรง แนะลดพอร์ตฝั่งซื้อ 2600-70
วิเคราะห์ราคาทอง 96.5% สมาคมค้าทอง
- ราคาสมาคมค้าทองคำไทยล่าสุดเมื่อวันที่ 04/01/2568 เวลา 09:10 น. (ครั้งที่ 1) ราคาขายออกอยู่ที่ 43,150 บาท และรับซื้อที่ 43,050 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลง -150 บาท ราคาทองคำแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบที่ค่อนข้างชัดเจน โดยมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 43,600 บาท และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 43,000 บาท โดยในระยะสั้นราคาทองคำได้เคลื่อนตัวทดสอบแนวต้านสำคัญแต่ไม่สำเร็จอาจสะท้อนถึงแรงขาย ที่ยังคงมีอิทธิพลในตลาด อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถทะลุระดับ 43,600 และยืนเหนือ 43,800 บาทได้อย่างมั่นคง จะเปิดโอกาสให้แนวโน้มขาขึ้นเริ่มต้นใหม่โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 44,000 – 44,400 บาท และในทางกลับกันหากราคาปรับตัวต่ำกว่า 43,000 บาท อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาลงยังไม่จบสิ้น และมีโอกาสที่ราคาจะลดลงไปทดสอบระดับ 42,800 – 42,400 บาท ปัจจัยข่าวที่มีผลกระทบในวันนี้ยังคงเกี่ยวข้องกับการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการว่างงาน และความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ หากข้อมูลออกมาดีกว่าคาด ค่าเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาทองคำในตลาดโลก อีกปัจจัยสำคัญคือความผันผวนของค่าเงินบาทที่ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดราคาทองคำไทย หากเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า ราคาทองคำไทยจะได้รับแรงหนุน แม้ราคาทองคำในตลาดโลกจะคงที่หรือปรับตัวลดลง คาดการณ์ราคาทองสมาคมเปิดตลาดวันนี้คงที่
วิเคราะห์ราคาทองจาก SCT Trade Plus
- ราคาทองจาก SCT Trade Plus วันนี้ปล่อยออกมาดีกว่าในฝั่งขาย ราคาทองคำ spot แสดงถึงการเคลื่อนไหวในกรอบที่สำคัญ โดยมีแนวต้านหลักที่ $2,660 และแนวรับที่ $2,630 การเคลื่อนไหวล่าสุดเผยถึงการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อทดสอบแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นจุดที่นักลงทุนควรจับตา หากราคาสามารถทะลุและยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ จะเป็นสัญญาณบวกที่อาจผลักดันราคาไปยังเป้าหมาย 2,670 ดอลลาร์หรือสูงกว่านั้น อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ได้ อาจเผชิญแรงขายที่ดึงให้ราคากลับไปสู่แนวรับบริเวณ $2,630 หรือในกรณีที่มีแรงขายหนัก ราคามีโอกาสปรับตัวลงไปที่แนวรับสำคัญที่ $2,620 หรือต่ำกว่านั้นซึ่งหากหลุดแนวรับนี้ จะเป็นสัญญาณเชิงลบที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในด้านข่าวสารที่มีผลกระทบต่อทองคำ ตลาดยังคงจับตาดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ เช่น ตัวขอรับสวัสดิการว่างงาน ซึ่งจะสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจและทิศทางของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หากข้อมูลออกมาสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำ
วิเคราะห์เงินบาท (THB)
- ค่าเงินบาทมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างแนวรับที่ 34.400 บาท และแนวต้านที่ 34.600 บาท โดยปัจจุบันราคายืนอยู่ที่บริเวณ 34.480 บาท ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของโมเมนตัมขาขึ้น หากราคาทะลุแนวต้าน 34.600 อาจเห็นการขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 34.700 บาท อย่างไรก็ตาม หากราคาลงมาต่ำกว่าแนวรับ 34.400 บาท อาจเห็นการปรับตัวลงต่อไปถึงแนวรับถัดไปที่ 34.350 บาท ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่องแม้มีอ่อนค่าบ้างเล็กน้อยแต่ยังได้รับแรงสนับสนุนของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่ง
กลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำไทยวันนี้
- แนะนำกรอบทำกำไร : 43,000 / 43,400
- จุดซื้อ (แนวรับ): 43,000 / 42,800
- จุดขาย (แนวต้าน): 43,400 / 43,600
บทวิเคราะห์ทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)
- สัปดาห์ที่ผ่านมาทองวิ่งขึ้นหวือหวามากแต่ปิดตลาดดึกวันศุกร์ที่ลดลงแบบนี้ต้องระวังมาก ภาพรวมระยะสั้นทองยังเป็นโหมดรีบาวด์ ระยะกลางยังพักฐานจากข่าวเฟดชะลอลดดอกเบี้ย สัปดาห์แรกของเดือนมักจะผันผวนหนักเพราะมีการประกาศตัวเลขการผลิต การจ้างงาน และรายงานประชุมของเฟด ซึ่งทั้งสามส่วนจะเริ่มตั้งแต่วันอังคารจนคืนวันศุกร์ที่เหล่านักลงทุนต้องจับตาตัวเลขช่วงค่ำทุกวัน เพราะตัวเลขที่จะประกาสส่วนใหญ่จะเอียงไปทางเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น จะมีแค่คืนวันศุกร์ที่ตัวเลขจ้างงาน NFP ที่คาดจะออกมาลดลง
- ส่วนประเด็นอื่นๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวสงครามทั้งยูเครนกับอิสราเอลก็ยังมีต่อเนื่องจากว่าทรัมป์จะรับตำแหน่งในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า / ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเพราะยูเครนปิดท่อก๊าซก็จะมีผลต่อเงินเฟ้อ ที่ยิ่งลดลงยากอยู่แล้ว
กลยุทธ์ซื้อขายทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)
- ทองก็แค่รีบาวด์ไม่ใช่ขาขึ้นจนกว่าจะยืน 2700 ได้เท่านั้น จึงแนะนำขาย หรือลดพอร์ตฝั่งซื้อทุกการดีดตัวในสัปดาห์นี้ และจับตาแนวต้าน 2650-60 ถ้ายืน 2655ไม่ได้ต้องระวังลงแรง คาดสัปดาห์นี้จะแกว่งผันผวนและลดลง
ข่าวที่ต้องติดตาม
- รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนสุขภาพของภาคการผลิตในสหรัฐฯ หากเป็นไปตามคาดส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
GOLD SPOT
- แนวรับ: $2,630 / $2,610
- แนวต้าน: $2,655 / $2,675