หลายคนคงเคยประสบกับปัญหาเก็บเงินไม่อยู่ ไม่ว่าจะเก็บออมในกระปุกที่เปิดแสนยาก ฝากบัญชีเงินเก็บแยก ก็ยังไม่วายกับเงินเก็บที่หายไปกับพฤติกรรมการใช้เงินที่ไม่รอบคอบ แต่วันนี้หมดกังวลปัญหากระเป๋าเงินรั่วเก็บเงินไม่อยู่ มาอุดรอยรั่วด้วยการวางแผนการใช้เงินเพื่ออนาคตกันดีกว่า
Methong มาแชร์เทคนิคการบริหารเงินให้เหลือเก็บและต่อยอดจากเงินเก็บให้เป็นกำไรกัน ไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนที่พอจะช่วยได้บ้าง
หยอดกระปุกเก็บไว้ให้ได้ตามเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายไว้แล้วลองคำนวณงบประมาณที่ต้องการ เช่นเป้าหมายที่จะซื้อรองเท้า โทรศัพท์มือถือ ตัวเลขที่ต้องเก็บออมให้ได้ตามเป้าหมายนั้นเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจในการเก็บออมเงินแต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้เงิน เงินเก็บส่วนนี้ไม่ได้มีผลกำไรเกิดขึ้นมา เมื่อใช้แล้วก็ย่อมหมดไป แต่การเก็บเงินด้วยการหยอดกระปุกนี้ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
ข้อดีคือมีแรงบันดาลใจในการเก็บเงิน ส่วนข้อเสียก็คือเราสามารถหยิบเงินที่เก็บออกไปใช้ได้ง่าย ๆ
แบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจน
อยากเริ่มต้นเก็บเงินให้มีเงินเหลือเก็บ ต้องเริ่มต้นด้วยวิธีนี้เลย กับการแบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายให้เป็นถึงจะมีเงินเหลือเก็บได้ ด้วยสูตรการแบ่งสัดส่วนที่เป็นที่นิยมก็คือ 50-30-20
สูตรแบ่งสัดส่วน 50-30-20 จะแบ่งออกเป็น
– ค่าใช้จ่ายประจำวัน
-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
– เงินสำหรับเก็บออม
50 การออมแบบแบ่ง 50% ใช้จ่ายสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตแต่ละเดือนเท่านั้น เช่น ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
30 การออมแบบแบ่ง 30% ใช้จ่ายในส่วนของสิ่งของที่อยากได้ Shop เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจให้ตัวเองในแต่ละเดือน อย่างเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ รอเท้า เป็นต้น
20 การออมแบบแบ่ง 20% โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นส่วนของการออม หรือการลงทุนต่าง ๆ เช่น การออมเงิน การลงทุนตราสารหนี้ การลงทุนทองคำ หรือการออมทอง เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่สวยงาม ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุด เพราะจะบอกถึงความมั่นคงของเราในอนาคตได้ ซึ่งในปัจจุบัน ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะวิกฤตแค่ไหน มูลค่าของทองคำก็ยังไม่เสียหายมากนัก ทำให้ธนาคารกลางของทั่วโลกทุกประเทศ เลือกใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ และส่งผลให้ราคาทองคำเป็นตัวบ่งชี้ถึงตัวเลขเศรษฐกิจโดยร่วมของช่วงเวลานั้น ๆ
ข้อดี : เก็บเงินได้จริงทุกเดือน และเมื่อแบ่งไว้แล้วจะไม่เบียดเบียนกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ทำให้สามารถเก็บเงินได้ง่ายและสามารถทำได้จริง
ข้อเสีย : คนที่มีรายรับแต่ละเดือนไม่เท่ากันอาจจะไม่เหมาะใช้วิธีเก็บเงินแบบนี้ เพราะต้องคอยปรับสัดส่วนเงินออมให้มีเงินใช้จ่ายเพียงพอ
จากวิธีดังกล่าว ส่วนของ 20% ที่แบ่งไว้สำหรับการลงทุนสามารถทำได้หลายอย่าง แต่การลงทุนที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ “การออมทอง” เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่คงความมีมูลค่า เป็นที่ต้องการของตลาดการซื้อ-ขาย และการออมทองในปัจจุบันนี้ก็สามารถทำได้ง่าย สะดวกสบาย ทุกที่ทุกเวลา ที่สำคัญใช้ทุนในการเริ่มต้นออมเพียงหลักร้อย ถ้าใครยังไม่รู้จะว่านำเงินส่วน 20% ที่แบ่งไว้สำหรับการเก็บออมไปลงทุนกับอะไรดี Me Thong ขอแนะนำการเก็บเงินแบบ “ออมทอง”
ข้อดีของการออมทอง คืออะไร ?
-สามารถออมได้ตลอด ผ่านแอปพลิเคชัน สะดวกสบายไม่เสียเวลาเดินทาง
-ไม่มีเงินก้อน ออมเงินเก็บ ก็มีทองคำเป็นของตัวเองได้
-สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดหรือเป็นทองคำก็ได้
-หมดกังวลเรื่องทองหาย
-ลงทุนง่าย ขายคล่อง
ไม่รู้จะออมทองกับร้านทองไหน วันนี้มีทองขอแนะนำร้านทองมาแรง บริการครบวงจรกับการลงทุนทองคำ ทั้งซื้อ-ขาย ออมทอง พร้อมทั้งการบริการแบบออนไลน์ที่สามารถทำได้ง่ายผ่านแอพพลิเคชันตลอด 24 ชั่วโมง
เริ่ม ซื้อขาย ทองคำแท่ง ออนไลน์ เริ่มต้นเพียง 150 บาท คลิก!!!
ชี้พิกัด ออมทองออนไลน์กับ 3 ร้านทองมืออาชีพ ออมง่ายได้ทองชัวร์ คลิกเลย !!!!!!!
"เช็คราคาทองคำ แบบ Real-Time
บนเว็บไซต์ METHONG ได้แล้ว คลิกเลย"
บทความโดย methong.co