บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 01 ส.ค. 2567

ความไม่แน่นอนทางการเมือง

เฟดคงอัตราดอกเบี้ย หนุนราคาทอง

 

วิเคราะห์ราคาทอง 96.5% สมาคมค้าทอง

  • ราคาสมาคมค้าทองคำไทยเมื่อวานนี้ วันที่ 31/07/2567 ณ เวลา 15.48 น. (ครั้งที่ 11) ขายออก 40,850 รับซื้อ 40,750 ราคาทองสมาคม Update +150 ทองไทยขึ้นต่อได้แรงหนุนจากวิกฤตตะวันออกกลาง หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และสัญญาณจากเฟดอาจลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำไทยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบระหว่างแนวรับที่ 41,000 บาท และแนวต้านที่ 41,400 บาท ในขณะนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาเหนือระดับแนวรับสำคัญที่ 41,000 บาท ซึ่งอาจส่งสัญญาณการฟื้นตัวในระยะสั้น หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 41,200 บาท และ 41,400 บาทตามลำดับ ในทางกลับกัน หากราคาหลุดแนวรับที่ 41,000 บาท มีโอกาสที่จะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 40,800 บาท โดยวันนี้ราคาทองสมาคมเปิด +250

บทวิเคราะห์ราคาทองเรียลไทม์ตามตลาดโลก

  • ราคาทองเรียลไทม์ตามตลาดโลก วันนี้ปล่อยออกมาได้ดีกว่าในฝั่งขาย ราคาทองคำ Spot พุ่งแรงใกล้ทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ ได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานว่าผู้นำกลุ่มฮามาสถูกกองกำลังทหารอิสราเอลสังหารในประเทศอิหร่าน และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.50% ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยเปิดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ ซึ่งในปัจจุบันข้อมูลมีพัฒนาการในทิศทางที่ดี แนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $2,450 หากสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,470 อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลง แนวรับสำคัญแรกจะอยู่ที่ $2,444 และแฃวรับถัดไปอยู่ที่ $2,430

ค่าเงินบาทไทย (THB)

  • เงินบาทเปิดตัวแข็งค่าอยู่ที่ประมาณ 35.87 บาทต่อดอลลาร์ เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากดอลลาร์สหรัฐทยอยอ่อนค่าลง พร้อมกับการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เนื่องจากการส่งสัญญาณของประธานเฟดในช่วง Press Conference ที่ระบุว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายนอาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งมีโอกาสราว 78% ที่จะสามารถลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งในปีนี้ ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ในทางเทคนิค มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 35.40 บาทต่อดอลลาร์ หากราคาหลุดจากระดับนี้ อาจมีแนวโน้มลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ระดับ 35.30 บาทต่อดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ หากราคาสามารถฟื้นตัวและยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเห็นการปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์

กลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำไทยวันนี้

• แนะนำกรอบทำกำไร : 40,900 / 41,400
• จุดย่อซื้อ (แนวรับ) : 40,900 / 40,750
• จุดขาย (แนวต้าน) : 41,400 / 41,550

 

 

บทวิเคราะห์ทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  • เมื่อคืนนี้เฟดคงดอกเบี้ยตามคาดและประกาศจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยในกลางเดือนหน้าแน่นอน เว้นแต่เงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นกลับมา โดยคุณพาวเวลแถลงนโยบายนี้ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งปธน.คนใหม่ ตลาดทองหุ้นพุ่งรับข่าวทันที ภาพรวมทองกลับมาเป็นขาขึ้น โดยมีเป้าหมายแรกคือต้องยืน 2450 และข้าม 2485 ให้ได้ อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ยังต้องระวังการประกาศตัวเลขจ้างงานและข่าวอื่นๆที่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นคืนนี้จะมีประกาศลดดอกเบี้ยของธ.กลางอังกฤษ ตัวเลขจ้างงานพรุ่งนี้ ตลอดจนข่าวการสังหารผู้นำอิซบอเลาะห์เมื่อวานนี้ ซึ่งสร้างความแค้นมาก

กลยุทธ์ซื้อขายทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  • ตลาดรับข่าวการลดดอกเบี้ยเดือนหน้าไปหมดแล้วต้องระวังแรงเทขายถ้ามีการขึ้นแรงๆ ตลอดจนตัวเลขจ้างงานพรุ่งนี้ ตราบใดที่ราคาทองยืนเหนือ 2435 ได้ ยังแนะการซื้อเล่นสั้นๆไวๆ เพราะราคาก็ขึ้นมาแรงมาระดับหนึ่งแล้ว จะมีแรงขายที่ 2455-85 มากน้อยแค่ไหนเพราะเป็นไฮเดิม

ทองคำแท่ง 96.5 % (บาท)

• แนวรับ : 40,900 / 40,750
• แนวต้าน : 41,400 / 41,550

ทองคำแท่ง 99.99 % (บาท)

• แนวรับ : 42,400 / 42,200
• แนวต้าน : 42,600 / 42,800

GOLD SPOT

• แนวรับ $2,434 / 2,400
• แนวต้าน $2,460 / 2,483

• สถานะตลาด : SIDEWAY UP 2,420-2,480
• จุดเข้า : BUY 2,435-2,440
• เป้าหมาย : $2,455-2,480
• Stop Loss : $2,415

แท๊กของบทความนี้

แป่งปันบทความนี้ :

เรื่องอื่นๆ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ลูกค้า ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วน ตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บุคคลธรรมดาทั่วไป เช่น ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม การให้และ/หรือการรับบริการ การติดต่อ และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น

  1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล ชื่อนามสกุล เพศ วัน-เดือน-ปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LINE ID
  4. ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการหรือกาประกอบอาชีพ  เช่น ประเภทธุรกิจ  ประเภทอาชีพ  ตำแหน่ง อายุงาน เอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจหรือประกอบอาชีพ
  5. ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม   เลขที่บัญชีเงินฝาก รายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก เลขบัตรเครดิต/เดบิต  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย  ข้อมูลสำหรับประเมินความเสี่ยง
  6. ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน  หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ และข้อมูลอื่นๆ              
  7. บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัทที่เกี่ยวข้องการทำธุรกรรมซื้อขาย  รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log/Chat – Bot  ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่านและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ตัวแทนของบริษัท  ผู้รับจ้างช่วงงานต่อหรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนบริษัท  ทางการตลาด ส่งเสริมการขาย  การประชาสัมพันธ์  การเสนอหรือสนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย และจัดส่งสินค้า ผู้จัดการด้านแคมเปญและการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
  2. บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เฉพาะบุคลากร หรือพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลของท่าน เพื่อการให้บริการทางธุรกรรมหรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการดังกล่าว อย่างเหมาะสมและดีที่สุดจากบริษัท
  3. บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้ หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใดๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี จัดเก็บไว้ตามกฎหมาย 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้หรือขอรับสำเนาข้อมูลได้  
  2. สิทธิให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
  3. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

เปิดทำการ จันทร์ – ศุกร์ : เวลา 9.15 – 16.00 น.

Call Center: 02-017-0777

Gold Trading Hotline: 02-017-0770

Fax Center: 02-222-7100

E-Mail: [email protected]

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบาย เวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.methong.co/privacy-policy เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม