บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 13 ส.ค. 2567

ทองคำพุ่งแรง ลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่

รับข่าวลบจากตะวันออกกลางและยุโรป

 

วิเคราะห์ราคาทอง 96.5% สมาคมค้าทอง

  • ราคาสมาคมค้าทองคำไทยเมื่อวานนี้ วันที่ 12/08/2567 เวลา 15:51 น. (ครั้งที่ 5) ขายออก 40,750 บาท รับซื้อ 40,650 บาท ราคาทองสมาคมอัปเดต +550 บาท ทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนมาทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 41,100 บาท ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ อย่างไรก็ตาม หลังจากขึ้นมาทดสอบแนวต้านนี้ ทองคำเริ่มมีการปรับฐานลง โดยแนวรับสำคัญที่ควรติดตามอยู่ที่บริเวณ 40,800 บาท หากทองคำสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 41,300 บาท แต่หากหลุดแนวรับที่ 40,800 บาท อาจเห็นการปรับฐานลงมาต่อที่แนวรับถัดไปบริเวณ 40,500 บาท การเคลื่อนไหวในช่วงนี้ยังคงมีความผันผวนสูง อันเป็นผลมาจากสถานการณ์ตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และข่าวสารที่มีผลกระทบ โดยราคาทองสมาคมเปิด +250 บาท

บทวิเคราะห์ราคาทองเรียลไทม์ตามตลาดโลก

  • ราคาทองเรียลไทม์ตามตลาดโลก วันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าในฝั่งขาย ราคาทองคำปรับตัวขึ้นรับแรงหนุนจากข่าวความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยูเครน หลังจากที่ยูเครนได้แอบโจมตีรัสเซีย ซึ่งนำไปสู่การประกาศของประธานาธิบดีปูตินว่าจะตอบโต้การกระทำดังกล่าว ปัจจัยนี้ได้กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ ในทางเทคนิค ราคากำลังทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน $2,474 ซึ่งเป็นจุดที่เคยเกิดแรงขายกลับลงมาก่อนหน้านี้ หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,508-$2,532 อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,445 และถัดไปที่ $2,439 ตามลำดับ

ค่าเงินบาทไทย (THB)

  • เงินบาทยังคงแนวโน้มการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง นักลงทุนต้องจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อและยอดขายปลีกจากสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของค่าเงินบาทในระยะสั้น การเคลื่อนไหวในช่วงนี้ยังคงมีความผันผวนสูง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ในทางเทคนิค มีแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 35.05 บาท หากเงินบาทสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมาในระยะสั้น แต่หากหลุดแนวรับนี้ไป มีแนวโน้มที่เงินบาทจะแข็งค่าลงต่อไปทดสอบแนวรับถัดไปที่บริเวณ 35.00 บาท ในขณะที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่บริเวณ 35.65 บาท หากราคาสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเห็นการฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 35.80 บาท

กลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำไทยวันนี้

• แนะนำกรอบทำกำไร : 40,800 / 41,100
• จุดย่อซื้อ (แนวรับ) : 40,800 / 40,500
• จุดขาย (แนวต้าน) : 41,100 / 41,300

 

 

บทวิเคราะห์ทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  • ทองขึ้นรับข่าวสงครามยูเครนแอบโจมตีรัสเชีย ปูตินลั่นจะต้องเอาคืน ส่วนสหรัฐฯเพิ่มทหารและกองทัพไปตะวันออกกลางช่วยยิวจากอิหร่าน ทางเทคนิคทองพยายามรีบาวด์ตามข่าว แต่จะเป็นขาขึ้นต้องยืน 2450 ได้ยาวๆและทำนิวไฮผ่านโซนต้าน 2485 ให้ได้ คืนนี้และพรุ่งนี้ตลาดรอตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตและเงินเฟ้อสหรัฐฯชี้ชะตา วันนี้ถ้าราคาทองยืน 2450 ไม่ได้ต้องระวัง อย่างไรก็ตามดัชนีเงินเฟ้อพรุ่งนี้และสถานการณ์สงครามมีผลต่ออารมณ์ตลาดมาก ประกอบกับความไม่แน่นอนในหุ้น น้ำมัน และค่าเงิน ยังไม่นิ่ง จึงเป็นบวกกับทองไปก่อน

กลยุทธ์ซื้อขายทองคำในตลาดโลก (Gold Spot)

  • ยืน 2450 ได้แนะเล่นย่อซื้อขึ้นขายไวๆ ลุ้น NEW HIGH หรือจะรอการพักฐานระยะสั้น ระวังเจอแรงขายถ้าไม่ผ่าน 2483 ในวันนี้ กรณียืน 2550 ไม่ได้และหลุด 2540 จะลงมาเทส 2400-10

ทองคำแท่ง 96.5 % (บาท)

• แนวรับ : 40,800 / 40,500
• แนวต้าน : 41,100 / 41,300

ทองคำแท่ง 99.99 % (บาท)

• แนวรับ : 42,200 / 41,900
• แนวต้าน : 42,700 / 43,000

GOLD SPOT

• แนวรับ $2,440 / 2,410
• แนวต้าน $2,485 / 2,500

• สถานะตลาด : SIDEWAY UP 2,450-2,485
• จุดเข้า : BUY 2,450
• เป้าหมาย : $2,475-2,485
• Stop Loss : $2,440

แท๊กของบทความนี้

แป่งปันบทความนี้ :

เรื่องอื่นๆ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ลูกค้า ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วน ตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บุคคลธรรมดาทั่วไป เช่น ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม การให้และ/หรือการรับบริการ การติดต่อ และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น

  1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล ชื่อนามสกุล เพศ วัน-เดือน-ปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LINE ID
  4. ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการหรือกาประกอบอาชีพ  เช่น ประเภทธุรกิจ  ประเภทอาชีพ  ตำแหน่ง อายุงาน เอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจหรือประกอบอาชีพ
  5. ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม   เลขที่บัญชีเงินฝาก รายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก เลขบัตรเครดิต/เดบิต  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย  ข้อมูลสำหรับประเมินความเสี่ยง
  6. ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน  หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ และข้อมูลอื่นๆ              
  7. บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัทที่เกี่ยวข้องการทำธุรกรรมซื้อขาย  รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log/Chat – Bot  ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่านและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ตัวแทนของบริษัท  ผู้รับจ้างช่วงงานต่อหรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนบริษัท  ทางการตลาด ส่งเสริมการขาย  การประชาสัมพันธ์  การเสนอหรือสนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย และจัดส่งสินค้า ผู้จัดการด้านแคมเปญและการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
  2. บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เฉพาะบุคลากร หรือพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลของท่าน เพื่อการให้บริการทางธุรกรรมหรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการดังกล่าว อย่างเหมาะสมและดีที่สุดจากบริษัท
  3. บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้ หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใดๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี จัดเก็บไว้ตามกฎหมาย 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้หรือขอรับสำเนาข้อมูลได้  
  2. สิทธิให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
  3. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

เปิดทำการ จันทร์ – ศุกร์ : เวลา 9.15 – 16.00 น.

Call Center: 02-017-0777

Gold Trading Hotline: 02-017-0770

Fax Center: 02-222-7100

E-Mail: [email protected]

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบาย เวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.methong.co/privacy-policy เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม